การถวายน้ำผึ้งแก่สงฆ์ นับเข้าในเภสัชทาน เป็นกาลทานส่วนหนึ่งซึ่งทำในสารทกาล ห้วงเวลาตั้งแต่ระหว่างข้างแรมเดือนสิบ โดยพุทธานุญาต มีปฐมเหตุมาแต่ครั้งพุทธกาล คือครั้งหนึ่งในระหว่างเดือนสิบ ภิกษุทั้งหลายมีการชุ่มด้วยน้ำฝน เกิดอาพาธฉันจังหันอาเจียน มีกายซูบผอมเศร้าหมอง เมื่อพุทธองค์ทรงทราบ จึงทรงอนุญาตเภสัชห้าอย่างคือ เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย ให้ภิกษุรับและฉันได้ในเวลาวิกาล เพื่อระงับโรค และบำรุงกำลัง จึงเป็นประเพณีที่ทายกทายิกานิยมถวายเภสัชทานขึ้นในเทศกาลนี้ มาจนถึงทุกวันนี้ และได้ถวายแต่น้ำผึ้งเป็นพื้น เรียกกันว่าตักบาตรน้ำผึ้ง มีระเบียบพิธีดังนี้
เมื่อถึงข้างแรมเดือนสิบ มีการป่าวร้อง หรือแจกฎีกาให้ชาวบ้านนำน้ำผึ้งบริสุทธิ์ พร้อมทั้งน้ำมัน น้ำอ้อย น้ำตาล ไปทำบุญตักบาตรร่วมกันในวัด ส่วนมากจะกำหนดทำในวันพระแรมสิบค่ำ เมื่อถึงวันกำหนด จะมีการตั้งบาตรหรือภาชนะ ที่สมควรไว้ในศาลาการเปรียญ หรือในโรงอุโบสถ เพื่อให้ชาวบ้านนำน้ำผึ้งมาใส่รวมกัน สำหรับน้ำมัน น้ำอ้อย และน้ำตาล ก็ให้ใส่ภาชนะต่างหากไม่ปะปนกัน เมื่อใส่เสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ตีระฆังสัญญาณให้ภิกษุสามเณรในวัดลงมารวมพร้อมกัน ทายกทายิกาอาราธนาศีล รับศีลพร้อมกันแล้วอาราธนาธรรม ภิกษุผู้สามารถพึงแสดงธรรม อนุโมทนาเภสัชทานนั้น จบแล้วทายกทายิกากล่าวคำถวายพร้อมกัน ว่าเฉพาะคำบาลีเท่านั้น
คำถวายเภสัชทานมีน้ำผึ้งเป็นต้น 
สรโท นามายํ ภนฺเต , กาโลสมฺปตฺโต , ยตฺถ ตถาคโต อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ สารทิกาปาเชน อาพาธิกานํ , ภิกขูนํ , เภสชฺชานิ , อนุญฺญาสิ , สปฺปนวนีตํ ,เตลํ มธุ ํ ผาณิตํ , มยนฺทานิ , ตกฺกาลสทิสํ , สมฺปตฺตา , ตสฺส ภควโต , ปุญญตฺตานุคํ , ทานํ, สาธุโนภนฺเต , อยฺยา ยถาวิภตฺตา , มธุทานํ จ , เตลํ จ, ผาณิตํ จ ปฏิคฺคณฺหาตุ , อมฺหากํ , ฑีฆรตฺตํ , หิตาย , สุขาย
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ บัดนี้สารทกาล มาถึงแล้วในกาลใดเล่า พระตถาคตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอนุญาตเภสัชห้าอย่างคือ เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย แก่ภิกษุทั้งหลายผู้อาพาธ ด้วยโรคเกิดในสารทกาล บัดนี้ข้าพเจ้าทั้งหลายมาถึงกาลเช่นนี้แล้ว ปรารถนาจะถวายทานตามพระพุทธานุญาต ของพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น จึงถวายน้ำผึ้ง น้ำมัน และน้ำอ้อย อันนับเข้าในเภสัชห้าอย่างนั้น แก่ภิกษุสงและสามเณรทั้งหลาย ขอพระเป็นเจ้าทั้งหลายจงรับมธุทาน เตลทาน และผาณิตทานของข้าพเจ้าทั้งหลาย ตามที่แจกถวายนั้น ๆ เพื่อประโยชน์และความสุข แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายบ สิ้นกาลนาน เทอญ ฯ
ขณะทายกทายิกากล่าวคำถวาย ภิกษุสามเณรทั้งหมดในที่นั้นพึงประนมมือ พอกล่าวคำถวายจบ ให้รับ “สาธุ” พร้อมกัน แล้วอนุโมทนาบทวิเสสอนุโมทนาที่นิยมในทานนี้ ใช้บท กาเล ททนฺติ… ต่อท้ายด้วยบท ยสฺส ทาเนน…
ทายกทายิกากรวดน้ำ แล้วประนมมือรับพรไปจนจบ เป็นอันเสร็จพิธี

 

ข้อมูลจาก buddhadham

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น