คนที่มีบุญวาสนานั้น ส่วนใหญ่จะกตัญญุต่อบิดามารดา แต่คนที่อกตัญญู ชอบเถียงบิดามารดานั้นจะเอาดีหาได้ไม่ จะอาภัพอับโชควาสนา แม้แต่คนที่ไม่พูดกับบิดามารดา ถึงนั่งกรรมฐานสักร้อยปีก็ไม่มีผลอะไร ถ้าไม่ขออโหสิกรรมเสียก่อน การขออโหสิกรรมที่คิดไม่ดีต่อบิดามารดา ต่อผู่มีพระคุณ ต่อครูบาอาจารย์ และญาติพี่น้อง จึงเป็นประโยชน์มาก ถ้าท่านเหล่านั้นอโหสิกรรมแล้วจะบังเกิดความสุขความเจริญ เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ทำมาหากินขึ้น เจริญรุ่งเรืองทุกๆทาง

พี่ดวงเฮง ขอฝาก การขออโหสิกรรมต่อพ่อแม่ เราสามารถทำได้ทุกวัน หรือทุกเวลาที่ต้องการ ไม่จำเป็นต้องเป็นเทศกาลสำคัญ แต่สำหรับใครที่ยังไม่กล้าพอ หรือไม่เคยทำ พี่ดวงเฮงแนะนำให้เอาเทศกาลสำคัญที่แหล่ะเป็นข้ออ้างที่จะทำให้ท่านนะจ๊ะ จะได้ลดความเขินลงไปหน่อย อิอิ 🙂 


วิธีขออโหสิกรรม
ตักน้ำไป 1 ขัน เอาดอกมะลิโรย (กราบไหว้)อธิษฐานว่า กายกัมมัง วจีกัมมัง มโนกัมมัง โยโทโส
“อันว่าโทษทัณฑ์อันใด ความผิดใด ที่ข้าพเจ้าพลั้งเผลอสติไปกระทำด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ทั้งเจตนาหรือไม่เจนา ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ขอให้คุณบิดามารดา คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย คุณครูบาอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชาและผู้มีพระคุณทั้งหลายขอให้อโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ด้วย ณ กาลบัดนี้เทอญ”
จากนั้นให้เอาน้ำในขันรดมือรดเท้าบุคคลดังกล่าว (กราบไหว้) เป็นเสร็จพิธี

ขอให้ทุกท่านได้นำไปปฎิบัติเมื่อรู้ว่าผิดจึงสมควรให้อภัย บุญกุศลทั้งหลายที่ข้าพเจ้าคิดดีทำดี จงสำเร็จแก่ครูอุปัชาอาจารย์ที่ท่านประพันธ์หนังสือเพื่อเป็นทาน แก่สาธุชนทั้งหลาย สาธุ

วิธีใช้หนี้พ่อแม่:ฉบับหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน 

1. จงสร้างความดีให้กับตัวเอง และนี่ก็เป็นการใช้หนี้ตัวเอง ตัวเราพ่อให้หัวใจ แม่ให้น้ำเลือดน้ำเหลืองอยู่ในตัวแล้ว จะไปแสวงหาพ่อที่ไหน จะไปแสวงหาแม่ที่ไหน บางคนรังเกียจแม่ ว่าแก่เฒ่าไม่สวยไม่งาม พอตัวเองแก่ก็เลยถูกลูกหลานรังเกียจ จึงเป็นกงกรรมกงเกวียนยืดเยื้อกันต่อไปอีก

2. ใครที่คุณแม่ล่วงลับไปแล้ว ก็ให้หมั่นทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่าน และถ้าจะทำบุญด้วยการเจริญกรรมฐาน แล้วอุทิศส่วนกุศลไป การทำเช่นนี้ถือว่าได้บุญมากที่สุด ทั้งฝ่ายผู้ให้และผู้รับ

3. ผู้ใดก็ตาม ที่คุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ให้กลับไปหาแม่ ไปกราบเท้าขอพรจากท่าน จะได้มั่งมีศรีสุข ส่วนคนที่เคยทำไม่ดีไว้กับท่าน ก็นำเทียนแพไปกราบขออโหสิกรรม ล้างเท้าให้ท่านด้วย เป็นการขอขมาลาโทษฯ

4. ขอฝากท่านไว้ไปสอนลูกหลาน อย่าคิดไม่ดีกับพ่อแม่เลย ไม่ต้องถึงกับฆ่าหรอก แค่คิดว่าพ่อแม่เราไม่ดี จะทำมาหากินไม่ขึ้น เจ๊ง ท่านต้องแก้ปัญหาก่อนคือ ถอนคำพูด ไปขอสมาลาโทษเสีย แล้วมาเจริญกรรมฐาน รับรองสำเร็จแน่ มรรคผลเกิดแน่ ฯ

5. บางคนลืมพ่อลืมแม่ อย่าลืมนะการเถียงพ่อเถียงแม่ไม่ดี ขอบิณฑบาต สอนลูกหลานอย่าเถียงพ่อเถียงแม่ อย่าคิดไม่ดีกับพ่อกับแม่ ไม่อย่างนั้นจะก้าวหน้าได้อย่างไร ก้าวถอยหลังดำน้ำไม่โผล่ ฯ

6. คนที่มีบุญวาสนา จะกตัญญูกับพ่อแม่ คนเถียงพ่อเถียงแม่เอาดีไม่ได้…….. คนไม่พูดกับพ่อแม่ นั่งกรรมฐานร้อยปี ก็ไม่ได้อะไร? ถ้าไม่ขออโหสิกรรม ฯขออโหสิกรรม ที่คิดไม่ดีกับพ่อแม่ คิดไม่ดีกับครูบาอาจารย์ คิดไม่ดีกับพี่ๆน้องๆ จะไม่เอาอีกแล้ว เอาน้ำไปขันหนึ่ง เอาดอกมะลิโรย กายกัมมัง วจีกัมมัง มโนกัมมัง โยโทโส อันว่าโทษทัณฑ์ใด ความผิดอันใด ที่ข้าพเจ้าพลั้งเผลอสติไป ด้วยกายก็ดี ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ขอให้คุณพ่อคุณแม่ คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย คุณพี่คุณน้อง อโหสิกรรมให้ด้วย แล้วเอาน้ำรดมือรดเท้า ฯ

นี่แหละท่านทั้งหลายเอ๋ย เป็นหนี้บุญคุณพ่อแม่มากมาย ยังจะไปทวงนาทวงไร่ ทวงตึก มาเป็นของเราอีกหรือ ตัวเองก็พึ่งตัวเองไม่ได้ สอนตัวเองไม่ได้ เป็นคนอัปรีย์จัญไรในโลกมนุษย์ไปทวงหนี้พ่อแม่ พ่อแม่ให้แล้ว (ให้ชีวิต ให้…ให้… ให้….ฯลฯ ) เรียนสำเร็จแล้ว ยังช่วยตัวเองไม่ได้ มีหนี้ติดค้าง รับรองทำมาหากินไม่ขึ้น ฯ

  •  หนี้บุญคุณอันยิ่งใหญ่ เหลือจะนับประมาณ 

               นั่นคือหนี้บุญคุณของบิดา มารดา 

7. ลูกหลานโปรดจำไว้ เมื่อแยกครอบครัวไปมีสามีภรรยาแล้ว อย่าลืมไปหาพ่อแม่ ถึงวันว่างเมื่อไรต้องไปหาพ่อแม่ ถึงวันเกิดของลูกหลาน อย่าลืมเอาของไปให้พ่อแม่รับประทาน อย่ากินเหล้า เข้าโฮเต็ล

8. ชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้เป็นมงคลนาม ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน เพราะชื่อเป็นเพียงนามสมมุติแทนตัวเรา อย่างหลวงพ่อชื่อจรัญ ปู่ตั้งให้ หมอดูบอกเป็นกาลกิณี แต่ทำไมเจริญรุ่งเรือง ขอให้เชื่อพระพุทธเจ้าทำดีได้ดี

9. ของดี ของ ปู่ ย่า ตา ยาย อย่าไปทำลายเลย ของพ่อแม่อย่าไปทำลายนะ หนีได้แน่นอน โยมมีกรรมฐาน มีทรัพย์ มีชื่อเสียง ความรัก บูชาทรัพย์ บูชาชื่อเสียง ความรักของพ่อแม่ได้ เงินจะไหลนองทองจะไหลมา……… พ่อแม่ให้อะไรเอาไว้ก่อน อย่าไปทำลายเสีย ถึงจะเป็นถ้วยพ่อแม่ให้มา ก็ไว้เป็นที่ระลึกก็ยังดีอย่าเอาไปทิ้งขว้าง ฯ

10. ถ้าต้องการเจริญก้าวหน้าขอฝากไว้ด้วย คนเรามี ๒ ก้าว จะก้าวขึ้นหรือก้าวลงดำน้ำไม่โผล่ ก้าวลงมันง่ายดี ก้าวขึ้นมันต้องยาก ของชั่วมันง่าย หลั่งไหลไปตามที่ต่ำ นี่บอกสอนลูกหลาน ต้องการจะบรรจุงานไม่ต้องไปวิ่งเต้น ดูลูกเสียก่อน กุศลเพียงพอหรือเปล่า ต้องเพิ่มกุศล ตัวอย่างเรียนจบครู สวดมนตร์เข้าเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นครู ทำงานธนาคารก็ได้ บริษัทก็ได้เดี๋ยวมีคนรับ บางรายทั้งสอบทั้งสมัครหลายแห่งไม่เคยเรียกเลย อาตมาให้นั่งกรรมฐาน พอ ๗ วันผ่านไปพวกมาตามให้เข้าไปทำงานแล้ว

…………………………………………..

ขอขอบคุณที่มาจาก ; -พลังจิต ดอท คอม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น