ความเป็นมา วัดราชคฤห์วรวิหาร

 

มีนามเดิมว่า วัดวังน้ำวน เพราะวัดตั้งติดกับคลองน้ำ 3 สาย คือ คลองบางกอกใหญ่  คลองบางน้ำชนและคลองท่าพระ มาชนติดกันจนทำให้เกิด วังน้ำวน เป็นวัดโบราณสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตอนปลาย  โดยมีชาวมอญกลุ่มหนึ่งซึ่งได้อพยพม่าโดยทางเรือจากกาญจนบุรี เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารและสร้างบ้านเรือนอาศัยอยู่แทบริมคลองบางกอกใหญ่  และสถานที่แถบนี้เป็นชัยภูมิของทหารไทยได้ซุ่มยิงเรือข้าศึก  จึงเรียกสถานที่นี้ว่า  ตำบลบังยิงเรือ  ต่อมาเปลี่ยนชื่อใหม่ว่าบางยี่เรือ  พอสงบศึกแล้วจึงได้ช่วยกันสร้างวัดขึ้น  โดยมีนายกองชาติรามัญ (มอญ) เป็นประธาน เพื่อจะได้ทำบุญกุศลและให้ลูกหลานเข้าเรียนหนังสือ”   แก้เป็นคำว่า   “เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารและสร้างบ้านเรือนอาศัยอยู่แถบริมคลองบางกอกใหญ่  แล้วได้ช่วยกันสร้างวัดขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ทำบุญกุศลและให้ลูกหลานเข้าเรียนหนังสือกันที่วัด  โดยมีนายกองชาติรามัญ (มอญ) เป็นประธานในการสร้างวัด   ต่อมา  เมื่อพระเจ้าตากสินมหาราช  ได้ตั้งค่ายรวมพลทหาร ณ สถานที่โพธิ์สามต้น เพื่อกู้ชาติ และเมื่อข้าศึกพม่ารู้ว่า ค่ายทหารพระเจ้าตากสินอยู่ที่โพธิ์สามต้น  จึงได้ยกทัพเรือมาเพื่อรบตีทหารให้แตก  พระเจ้าตากสินผู้รู้หลักตำราพิชัยสงคราม  จึงรับสั่งให้ทหารหารมีพระยาพิชัยดาบหักเป็นต้น แบ่งทหารออกเป็นกองๆ  เพื่อดักซุ่มโจมตีทหารพม่าที่มาตามคลองนำ โดยให้อยู่ตามจุดยุทธศาสตร์ต่างๆ ริมข้างคลองนำทุกๆ สายที่มาทางโพธิ์สามต้น และพระยาพิชัยดาบหัก  พาทหารหารมาดักซุ่มโจมตีที่วัดราชคฤห์  โดยยิงปืนใส่ทหารพม่าที่มาจอดเรืออยู่ที่วังนำวน  จึงทำให้ทหารพม่าล้มตายบ้าง  บางท่านก็ลบหนีไปได้   เมื่อกอบกู้ชาติได้แล้ว   พระองค็จึงคิดบูรณะปฏิสังขรณ์วัดนี้  โดยรับสั่งมอบหมายให้พระยาพิชัยดาบหัก ทหารเอกราชองค์รักษ์  มาควบคุมดูแลบูรณปฏิสังขรณ์การก่อสร้างวัด  ต่อมา เมื่อพระเจ้าตากสินสิ้นพระชนม์แล้ว  โดยอาศัยสถานที่นี้เป็นที่ยิงเรือรบของข้าศึกและสถานที่แทบนี้เป็นชัยภูมิของทหารไทยได้ซุ่มยิงเรือข้าศึก  จึงเรียกสถานที่นี้ว่า  วัดบังยิงเรือ พอสงบศึกแล้วจึงได้ช่วยกันสร้างวัดขึ้น  โดยมีนายกองชาติรามัญ (มอญ) เป็นประธาน เพื่อจะได้ทำบุญกุศลและให้ลูกหลานเข้าเรียนหนังสือ ต่อมาเนื่องจากมีวัดอยู่ใกล้กัน  ๓  วัด  จึงเรียกชื่อตามตำบล  วัดนี้ตั้งอยู่ทางเหนือน้ำไหลจึงเรียกว่า  วัดบางยี่เรือเหนือ(วัดราชคฤห์)  วัดบางยี่เรือกลาง  (วัดจันทาราม)  วัด   บางยี่เรือใต้  (วัดอินทาราม)  แต่ชาวบ้านเรียกกันจนติดปากว่า”วัดมอญ”  เพราะมีพระมอญประจำพรรษาอยู่มาก

 

 

ต่อมา  สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  ได้กู้ชาติไทยได้เสร็จแล้ว จึงได้สร้างเมืองขึ้นใหม่  ให้เป็นราชธานี สถาปนา ชื่อว่า  “กรุงธนบุรี”  และได้ขึ้นครองราชย์  จากนั้น  พระองค์พร้อมด้วยทหารคู่ใจ  คือพระยาสีหราชเดโช  (พระยาพิชัยดาบหัก)  ได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์วัดบางยี่เรือเหนือ มีสร้างพระอุโบสถสร้างพระปรางค์เหลี่ยมย่อไม้ยี่สิบ  อยู่ทั้ง  ๔  ด้านของพระอุโบสถ สร้างพระเจดีย์บรรจุพระบรมธาตุที่นำมาจากกรุงราชคฤห์แห่งประเทศอินเดียสร้างพระพุทธรูปปางถวายพระเพลิง และสร้างภูเขาจำลอง  (ภูเขามอ) พร้อมทั้งสถูปนำเอาพระบรมธาตุมาบรรจุไว้ เพื่อให้เป็นที่สักการบูชาแก่พุทธศาสนิกชนสืบมา  ต่อมา  พระเจ้าตากสินมหาราชได้สวรรคต ส่วนพระยาสีหราชเดโช  ได้สิ้นชีวิตลงตามพระเจ้าตากสิน  ได้นำเอาศพบรรจุไว้ที่วัดบางยี่เรือ           

 

        

 

          วัดนี้ตั้งอยู่ที่ริมคลองบางกอกใหญ่ฝั่งขวา ถนนเทอดไท แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี ใครอยากไปกราบพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากกรุงราชคฤห์ ประเทศอินเดีย หรือพระพุทธรูปเก่าแก่อายุ 300 – 400 ปี สมัยกรุงศรีอยุธยา และปูชนียวัตถุองค์อื่น ๆก็เชิญมากราบนมัสการได้นะจ๊ะ

 

       จุดน่าสนใจของวัดนี้อยู่ที่มีพระนอนหงายหรือพระสุขสบาย สามารถไปกราบนมัสการขอพระกันได้ทุกวันเลยค่ะ  พร้อมกับมีเคล็บลับน่าสนใจอยู่ตรงที่ ให้อธิฐานขอพรแบ่งตามชายหญิงให้แตกต่างกันออกไป  ซึ่งน้องบารมีได้ไปกราบนมัสการมาแล้วกับครอบครัว และวัดนี้ยังมีจุดน่าสนใจที่ ไม่ีควรพลาด คือตลาดสดยามเช้าของขายเพียบ ใครว่างแวะไปได้ทั้งวันแต่ถ้าไปช่วงเช้าจะดีมากเลยจ๊ะ  

 

เขียนโดย : น้องบารมี จ๊ะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น