รีวิวหมอดูฉบับนี้ เป็นบทความจากสมาชิกเว็บส่งมาให้พี่ดวงดีจ้า  เป็นอาจารย์หมอดูไพ่ยิปซี อีกท่านหนึ่งที่ทางสมาชิกการันตีมาว่าแม่นมาก  ตอนนี้ทางทีมงาน Horoguide.com ได้ริวิวหมอดู ชื่อ ณุ เหมือนกันไว้ 2 ท่าน อีกท่าน พี่ณุ พระราม2 เป็นหมอดูไพ่พรหมญาณ และก็ท่านนี้จ้า

ประวัติโดยย่อของ อ.ณุ   หมอดูพระลิขิต (ไพ่ยิปซี)

อาจารย์ณุเคยทำงานเป็นนักวิเคราะห์ระบบคอมฯที่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งเป็นเวลาหลายปีประกอบกับในเวลานั้นสนใจศาสตร์แห่งไพ่ยิปซี อ.ณุจึงสนใจศึกษาหาความรู้และไปลงเรียนกับอาจาร์ยต่างๆหลายท่านจนได้เจอกับอาจาร์ยท่านหนึ่งที่มีความรู้ทางด้านศาสตร์ไพ่ยิปซีจากต่างประเทศและได้เรียนกับอาจาร์ยท่านนี้เป็นเวลาหลายปี

หลังจากอ.ณุเรียนศาสตร์ไพ่ยิปซีจนสำเร็จก็ยังไม่ได้ยึดอาชีพนักพยากรณ์ไพ่ยิปซีอย่างจริงจังเพียงแค่ดูให้กับญาติพี่น้องและกลุ่มเพื่อนโดยไม่ได้คิดเงินเพราะว่างานนักนักวิเคราะห์ระบบคอมฯกำลังไปได้ดีและกำลังจะได้เลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนก แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นนั่นก็คือ

แม่ของอ.ณุล้มป่วยลงและได้ถูกตรวจพบว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งตับในระยะสุดท้ายและหมอได้วินิจฉัยว่าแม่ของอ.ณุจะอยู่ได้แค่3เดือน อ.ณุจึงได้ตัดสินใจออกจากงานเพื่อที่จะได้ดูแลแม่เพราะรักแม่มากและต้องการอยู่กับแม่ให้มากที่สุดทั้งๆที่งานกำลังไปได้ดี

หลังจากอ.ณุออกจากงานก็ได้ดูแลแม่เป็นอย่างดีในช่วงที่ออกจากงานมาดูแลแม่อ.ณุก็ได้มีโอกาสใช้ศาสตร์ยิปซีพยากรณ์ให้กับผู้คนต่างๆเพื่อหารายได้อยู่บ้าง แม่อ.ณุสามารถอยู่ได้ถึง3ปีจึงเสียชีวิตลง และในวันที่จะนำศพของแม่ของอ.ณุเข้าเมรุเพื่อที่จะทำการฌาปนกิจ อ.ณุร้องไห้ฟูมฟายเพราะไม่สามารถรับได้ที่แม่ต้องถูกเผาและได้เป็นลมล้มหมดสติอยู่ตรงหน้าเมรุ

หลังจากฟื้นขึ้นมาก็กลายเป็นคนเสียสติไม่รู้สึกตัวและจำสิ่งต่างๆไม่ได้จนพี่สาวคนโตต้องนำไปดูแลเป็นเวลา1ปีเต็ม และในวันสุดท้ายที่จะได้สติกลับคืนมา อ.ณุได้ยินเสียงกระซิบที่หูและเห็นภาพว่าตัวเองไปกระโดดน้ำที่สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา อ.ณุจึงหนีออกจากบ้านพี่สาวและเรียกแท็กซี่ไปสะพานพระปิ่นเกล้าเพื่อไปกระโดดน้ำตามเสียงและมโนภาพโดยใช้เงิน100บาทที่พี่สาวให้พกติดตัวไว้ตลอดเวลาเป็นค่าเดินทาง ขณะที่รถแท็กซี่กำลังขับผ่านหน้าวัดๆหนึ่งเพื่อมุ่งหน้าไปสะพานพระปิ่นเกล้า อ.ณุก็ได้เห็นพระพักตร์ของพระพุทธรูปใหญ่มากลอยเข้ามาที่หน้าของอ.ณุ  ทำให้อ.ณุลงจากรถแท็กซี่และเดินเข้าไปในโบส์ถ ระหว่างที่อ.ณุเดินเข้าไปในโบส์ถก็มียายแก่ๆคนหนึ่งแต่งชุดไทยสมัยโบราณมาสะกิดเรียกแล้วพูดว่า

“ไอ้หนูเดินตามยายมา ไปไหว้หลวงพ่อกัน”

อ.ณุได้ยินดังนั้นก็เดินตามยายไปโดยอัตโนมัติและในขณะที่เดินไปก็ได้สังเกตุว่าบรรยากาศโดยรอบๆของวัดไม่ใช่ยุคปัจจุบันแต่เป็นยุคในอดีตเพราะเสื้อผ้าการแต่งกายของคนในวัดเป็นชุดไทยโบราณและใช้โคมไฟเพื่อให้แสงสว่าง

หลังจากอ.ณุได้เดินตามยายเข้ามาในโบส์ถจึงได้รู้ว่าพระพักตร์ของพระที่ลอยมาให้เห็นก็คือพระที่อยุ่ในโบส์ถนี้นั่นเอง ยายผู้นี้ก็พูดกับอ.ณุว่า”กราบพระซะลูกจะได้หาย”อ.ณุก็ก้มลงกราบตรงที่หน้าพระประธาณองค์ที่อยู่ตรงหน้า ขณะที่ก้มลงกราบพระและกำลังจะเงยหน้าขึ้นอ.ณุก็ฟุบและได้สลบไปโดยที่ไม่รู้สึกตัว

รู้สึกตัวอีกทีก็เพราะได้ยินเสียงเคาะไมโครโฟนของพระสงฆ์ที่อยู่ในโบส์ถเพื่อที่จะแจ้งโยมที่มาที่วัดว่าถึงเวลาทำวัตรเย็นแล้ว หลังจากอ.ณุได้สติกลับคืนมาก็พบว่าตัวเองได้นั่งฟุบอยู่หน้าตู้นาฬิกาไม่ใช่ที่หน้าพระประธาณในโบส์ถและเมื่อมองไปรอบๆตัวก็ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่วัดไหนแต่รู้ว่าตัวเองอยู่ในยุคปัจจุบันอีกครั้งหนึ่งเพราะเสื้อผ้าการแต่งกายของคนที่มาวัดและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในโบส์ถแต่เมื่อมองมาที่ตู้นาฬิกาจึงได้รู้ว่าตัวเองอยู่ที่วัดสุทัศนเทพวราราม

และสิ่งหนึ่งที่อ.ณุรู้สึกได้ก็คือสติสัมปชัญญะของตนเองได้กลับมาเป็นคนปกติแล้ว และความจำสิ่งเดียวที่จำได้ในขณะเสียสติก็คือเรื่องราวที่เห็นพระพักตร์ของพระพุทธรูปลอยใหญ่มาตรงหน้าในแท็กซี่จนกระทั่งได้สติคืนภายในโบส์ถ พระประธาณที่ลอยมาให้เห็นและได้ช่วยชีวิตอ.ณุไม่ให้กระโดน้ำตายก็คือ “พระศรีศากยมุณี” ซึ่งประทับอยุ่ในโบส์ถนั่นเอง หลังจากที่อ.ณุได้สติกลับคืนมาก็ได้เรียกแท็กซี่เพื่อที่จะมาบ้านพี่สาวโดยให้แท็กซี่มาเก็บเงินกับพี่สาว พออ.ณุได้เจอกับพี่สาวๆก็รุ้ได้ทันทีว่าอ.ณุได้หายเป็นปกติแล้ว หลังจากที่อ.ณุได้กลับมาเป็นคนปกติอีกครั้งก็ได้กลับมาอยู่บ้านเดิมที่เคยอาศัยอยู่กับแม่โดยมีเงินติดตัวแค่20บาท เมื่อเห็นว่าตัวเองไม่มีเงินอ.ณุจึงโทรศัพท์หาพี่ชายเพื่อขอเงิน300บาทแต่พี่ชายปฏิเสธที่จะช่วยเหลือ

อ.ณุจึงโทรศัพท์หาพี่สาวเพื่อที่จะขอเงินแต่พี่สาวได้ให้สติว่า

“ถ้าพี่เป็นณุพี่จะมีชีวิตอยู่ให้ได้ด้วยเงิน20บาท”

เมื่ออ.ณุได้ฟังดังนั้นจึงตั้งใจว่าจะต้องอยู่ให้ได้ด้วยตัวเอง อ.ณุจึงจุดธูปไหว้พระที่บ้านและอธิฐานกับพระว่า

“ข้าพเจ้าไม่อยากเป็นคนเลวไม่อยากเป็นมิจฉาชีพอยากหากินโดยสุจริตไม่เบียดเบียนผู้อื่น ถ้าฟ้ามีตาสวรรค์มีจริงสิ่งศักดิ์สิทธ์มีจริง ขอให้ช่วยข้าพเจ้าได้พบหนทางทำมาหาเลี้ยงชีพด้วยเถิด”

หลังจากอ.ณุอธิฐานเสร็จได้ไม่กี่ชั่วโมงก็มีคนโทรศัพท์มาเพื่อที่จะให้อ.ณุช่วยพยากรณ์โดยใช้ไพ่ยิปซีให้ เพราะอ.ณุเคยดูให้กับคนๆนี้มาก่อนตอนที่ยังไม่เสียสติและได้รับเงินมา300บาท ซึ่งเป็นเงินก้อนแรกที่หาได้ในชีวิตหลังจากได้สติกลับคืนมาและก็เป็นที่น่าอัศจรรย์ว่าบุคคลที่อ.ณุเคยพยากรณ์ให้ในอดีตได้โทรศัพท์ติดต่อให้พยากรณ์อีกเป็นจำนวนมากในช่วงนั้นเพราะอ.ณุยังไม่มีเงินมากพอที่จะไปทำโฆษณาและเช่าสถานที่ อ.ณุก็ได้อาศัยกลุ่มลูกค้าเหล่านั้นบอกปากต่อปากจนทำให้กลุ่มลูกค้ามีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนถึงทุกวันนี้

อาจารย์ณุ    เคยดูบุคคลที่มีชื่อเสียงมามากมาย

นักการเมือง – พยากรณ์เรื่องผลการเลือกตั้ง   เขตที่ควรลงสมัครแล้วจะได้รับเลือก

นักธุรกิจระดับประเทศ – พยากรณ์เรื่องการลงทุนทำธุรกิจ   การซื้อขายหุ้น

ดารา  นักร้อง – พยากรณ์เรื่องการลงทุนทำธุรกิจ     ความรัก    การแต่งงาน

อาจารย์ณุ   นอกจากจะเป็นหมอดูไพ่ยิปซี  แล้วยังเป็นอาจารย์สอนดูไพ่ยิปซี  ซึ่งมีหมอดูไพ่ยิปซีชื่อดังหลายคนที่เป็นศิษย์ของ อาจารย์ณุ เรียกได้ว่าเป็นระดับอาจารย์ของหมอดูทั่วไป
การมาดูหมอกับอาจารย์ณุ    คิดค่าดูเพียง  300 บาท/ท่าน/ชม.    ต้องโทรจองคิวล่วงหน้า  (ถ้าไม่แม่น ไม่ต้องกลับมาดูอีกตลอดชีวิต)

สำหรับท่านที่สนใจเรียนดูไพ่ยิปซี  แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ

ระดับเบื้องต้น   เรียนไว้ดูเล่นกับเพื่อน ฝึกเป็นหมอดูเบื้องต้น  เรียน 3 เดือน  ค่าเรียน 9900 บาท  เริ่มเรียน ปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้  รับไม่เกิน 6 คน

ระดับกลาง    เรียนไว้เพื่อประกอบอาชีพเป็นหมอดู    เรียน 4 เดือน    ต้องรอรอบใหม่เปิดประมาณกลางปี

ระดับสูง    เรียนไว้เพื่อประกอบอาชีพเป็นหมอดูขั้นสูง    เรียน 6 เดือน    ต้องรอรอบใหม่เปิดประมาณกลางปี

สนใจโทร 081-6956661  ,  089-1690911

สถานที่ดูหมออยู่ตึกพญาไทบิวดิ้ง  ใกล้สถานีรถไฟลอยฟ้าอนุสาวรีย์  จากปากซอยรางน้ำ เดินลงมาทางไปแยกพญาไท เดินมาประมาณ 50 เมตร     จะพบตึกพญาไทบิวดิ้ง   มองไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นกรมแพทย์ทหารบก  เราอยู่ตึกพญาไทบิวดิ้งที่ตึกด้านหน้า ติดถนนใหญ่  อยู่ชั้น 2   (ใช้สถานที่ของสถาบันไอสไตน์)

“…ถ้าไม่แม่น  ไม่ต้องกลับมาดูอีก  ตลอดชีวิต…”   คุณสาว (ผู้แนะนำ)