แม่น! รายงานการวิจัยทางโหราศาสตร์ ดวงเมืองเจอราหูจรเข้าราศีธาตุน้ำ เจอแน่น้ำท่วมแผ่นดิน

พี่ดวงดีพยายามรวบรวมคำทำนายที่เกี่ยวกับดวงเมืองมาให้เพื่อนๆได้ลองอ่านและวิเคราะห์ดูว่าแม่นหรือไม่แม่น  อะไรเกิดขึ้นแล้ว  และอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป  สำคัญที่สุดคือเราจะเตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นและ ที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างไร จะได้เตรียมตัวกันทันนะจ๊ะ 

น้ำท่วม ดวงเมือง 2554 - 2555

รายงานการวิจัยทางโหราศาสตร์

ภาคการพยากรณ์ดวงชะตาประเทศไทย พุทธศักราช 2554 ต่อเนื่องไป
โดย  ชลัมพุช โหรชนบท   …..7  ม.ค. 2554

1. ในเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ 2554 วงการทหาร ตำรวจ และบุคคลในเครื่องแบบ จะคึกคักขึ้น ทหารในรูปรวมจะได้รับคำสั่งและนโยบายบางอย่างในทางที่สนับสนุนรัฐบาลปัจจุบันอย่างเต็มที่และทุกวิถีทางไม่ว่าผิดหรือถูก ชอบธรรมหรือไม่ชอบธรรมประการใดก็ตาม กระนั้นก็ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงหรือความขัดแย้งอะไรรุนแรง

2. พล.อ.เปรม ตินสูลานนท์ จะเริ่มมีบทบาททางการเมืองของประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง ในเดือนเมษายน 2554 จะได้เห็นการปรากฏตัวของพล.อ.เปรม ในระหว่างวันที่ 17 – 30 เมษายน 2554 พล.อ.เปรมจะไปปรากฏตัวในงานศพสำคัญแห่งหนึ่งในวงการทหารเรือ ลูกน้องที่เสียชีวิตเกิดจากการตายหมู่ทางทะเลในช่วงเวลานั้น

หลังจากนั้น พล.อ.เปรมจะมีบทบาทเปิดเผยตัวเองทางการเมืองมากขึ้น อย่างน้อยก็ปรากฏในงานหรือพิธีกรรมสำคัญ ๆ ปรากฏในดวงชะตาช่วงนี้ว่าจะเด่น มีอำนาจและมีการบังคับบัญชา อย่างกับว่าอยู่ในตำแหน่ง ที่น่าเกรงขาม อยู่ระหว่างวันที่ 24 พ.ค. 2554 – เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 26 สิงหาคม 2554 ระหว่างเวลา 4 เดือนนี้ จะเป็นเวลาที่มีความหมายยิ่งสำหรับชะตาของพล.อ.เปรม ที่มุ่งหมายจะขึ้นสู่อำนาจปกครองประเทศไทย
แต่แล้ว ภายหลังจากเวลาผ่านไปเพียง 4 เดือนเท่านั้นเอง โดยเมื่อเลยวันที่ 26 สิงหาคม 2554 อันเป็นวันเกิดอายุครบรอบ 91 ปี ไปแล้ว พล.อ.เปรมจะประสบปัญหาทางด้านสุขภาพอย่างหนัก โดยที่ได้พบว่าหลังวันที่ 26 ส.ค. 2554 เป็นต้นไป พล.อ.เปรมจะป่วยหนัก มีปัญหาด้านสุขภาพภายในและภายนอก อันเนื่องจากอาหารเป็นพิษ ทางเดินอาหารหยุดทำงาน ครั้นถึงเวลาระหว่างวันที่ 7 ธ.ค. 2554 –ไปจนถึงวันที่ 5 เม.ย.2555 อาการจะกำเริบ อาจจะเสียชีวิตในระหว่างเวลาดังกล่าวนี้ หรือไม่เสียชีวิตก็จะหมดสิ้นอำนาจวาสนาลง

3. ในเดือนเมษายน 2554 นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนไปจนสิ้นเดือน จะเกิดภาวะตึงเครียดและคับขันขึ้นบริเวณชายแดนประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ชายแดนด้านทะเลติดต่อกัน ยังไม่ชัดเจนของเขตแดน นั่นคือ ไทย – กัมพูชา ประมาณการณ์จากผลวิเคราะห์ดังนี้

3.1 จะเกิดเหตุการณ์ทางทะเล ทางชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ในวันที่ 29 เมษายน 2554 เวลา 09.09 น.

3.2 ประเทศอะไร? ชายแดนทางทะเลที่มีปัญหากันอยู่ ก็ไม่ใช่พม่า ลาว ไม่ใช่มาเลเซีย ก็มีประเทศเดียวคือกัมพูชา ดังที่ปรากฏความยุ่งยากขึ้นในดวงชะตาผู้นำกัมพูชาในช่วงเดือนเมษายน 2554 คือ นรม.ฮุนเซน แห่งกัมพูชา ที่ระบุถึงความยุ่งยากทางชายแดนทะเล ดังนั้นบริเวณที่เกิดเหตุก็จะเป็นบริเวณชายแดนทะเลด้านจังหวัดตราด ของไทย กับด้านจังหวัดกำปงโสม ของกัมพูชา ตามวันเวลาดังกล่าวในเดือนเมษายน จนถึงวันที่เกิดปะทะตึงเครียดขึ้นในวันที่ 29 เมษายน 2553 เวลา 09.09 น.ดังกล่าว

3.3 จะมีการปะทะกันหรือมีเรื่องราวกันระหว่างไทย-กัมพูชาในเขตน่านน้ำดังกล่าว แล้วจะกลายเป็นกรณีพิพาทเรื่องเขตแดนระหว่างประเทศไปนานตลอดปี 2554

ในด้านผู้นำประเทศไทย ปรากฏว่าในเดือนเมษายน 2554 ยังปรากฏภาวะตึงเครียดขึ้นในชาตาผู้นำไทยคือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีการเคลื่อนไหวของพลพวกพรรคประชาธิปัตย์อย่างเข้มข้นจ้าละหวั่นเพื่อแก้ปัญหา โดยปรากฏว่าเริ่มมีความทยุ่งยากเกิดขึ้นตั้งแต่กลางเดือนเมษายน ประมาณวันที่ 17 เมษายน 2554 ประมาณการณ์ว่าน่าจะเกี่ยวกับต่างประเทศ คือปัญหาทางชายแดนไทย-กัมพูชาทั้งทางบกและทางน้ำ ซึ่งจะกลายเป้ฯข้อพิพาทต่อไปตลอดปี 2554 ปรากฏว่ามีการแก้ปัญหาผ่านไปได้บางประเด็นอย่างบอบช้ำ ซึ่งในระยะเดียวกันนี้ ปรากฏในดวงชะตาผู้นำกัมพูชา สมเด็จอัครมหาเสนาบดีฮุนเซน ก็พบภาวะตึงเครียดสุดขีดเช่นเดียวกับผู้นำไทย หลังเดือนเมษายน 2554 ไปแล้ว ยังคงพบสถานการณ์ในดวงชะตาผู้นำกัมพูชาที่เลวร้ายลงไปกว่าเดิมอีก กระนั้นทางกัมพูชาก็มิได้ถึงอันตราย เพราะวิกฤตนั้นถูกต้านทานไว้อย่างเหนียวแน่น ชะตาฮุนเซนค่อนข้างเหนียวและทนทานต่อสภาวะกดดันดีเป็ฯพิเศษ เพราะมีหลักนโยบายการแก้ปัญหาดี แต่กัมพูชาจะประสบปัญหาความลำบากยากจนและปัญหาเศรษฐกิจไปตลอดปี 2554 ต่อต้นปี 2555

4. ดวงชะตาประเทศไทย เรื่องราวสำคัญทางการเมืองของปี 2554 ก็คือเรื่องราวของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะยังคงยุ่งยากต่อไปอีกและไปสู่จุดที่ตกต่ำที่สุดถึงขั้นวิกฤต เราได้ให้คำพยากรณ์ที่บอกความหมายของพรรคประชาธิปัตย์ล่วงหน้าแล้ว โดยใส่ไว้ในบางส่วนของผู้นำคนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์คือนายชวน หลีกภัย ดังนี้

4.1 “6. ครั้นช่วงเวลานี้ (15 มิ.ย. – 16 ก.ค.2553) ผ่านไปแล้ว ไม่ว่านายชวนจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ก็จะเป็นช่วงเจ้าชาตานี้ต้องเผชิญกับปัญหาที่ยากลำบาก ความฝืด ความจนมุมไม่มีทางออกหมายความรวมถึงอุบัติเหตุและสุขภาพของเจ้าชาตานี้และที่สำคัญหมายถึงความแตกร้าวอย่างรุนแรง ถ้านายชวนได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งนั่นหมายถึงการพาคณะบริหารทั้งคณะไปสู่สภาวะการเสี่ยงขนาดหนักต่อสภาวะการพังและแตกร้าวไปด้วยกัน แม้ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพรรคประชาธิปัตย์อยู่ ก็น่าจะหมายถึงพาหมู่ – พรรคไปสู่สภาวะดังกล่าวด้วย ซึ่งสภาวะต่าง ๆดังกล่าวมาแต่ต้นนั้น จะดำรงคงเป็นไปตลอดปี 2553 และครั้นถึงเวลาระหว่าง พ.ค. -ก.ค. 2554 (ช่วงประมาณ 3 เดือนนี้) น่าจักได้เผชิญภาวะอันร้ายแรงอันเนื่องมาจากแนวต้านทานพังทลายลงไปทั้งหมด”
ชลัมพุชโหรชนบทให้การพยากรณ์ไว้ ณ 7 พ.ค.2553
(ดู สารบาญโหราศาสตร์; ดวงชะตานายชวน หลีกภัย, การพยากรณ์ดวงชะตาประเทศไทย นักการเมือง และพรรคการเมืองก่อนเหตุการณ์สลายแดงราชประสงค์ 19 พ.ค.2553)

4.2 “6. ใน 5 ปีที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์มีแต่ความวุ่นวาย ใน 2 ปีครึ่งข้างหน้า พรรคประชาธิปัตย์อยู่ในระยะความเสี่ยง และความทรุด ในเดือนเมษายน 2553 เป็นต้นไป พรรคประชาธิปัตย์จะดูดี ปลอดภัยขึ้น แต่จะไร้บทบาทปราศจากการสร้างสรรค์อย่างไรแก่ประเทศไทย และประชาชนไทย ระยะอันตรายของพรรคประชาธิปัตย์มีอยู่ในขณะนี้แต่จะทวีอันตรายไปยิ่งขึ้นที่ เมษายน 2554 เป็นต้นไป เป็นระยะที่ตกต่ำและแตกแยกอย่างรุนแรง”
ชลัมพุชโหรชนบทให้การพยากรณ์ไว้ ณ 22 ธ.ค.2552
(ดู สารบาญโหราศาสตร์; ดวงชะตาพรรคประชาธิปัตย์ การพยากรณ์ดวงเมือง นักการเมือง และพรรคการเมืองก่อนเหตุการณ์สลายแดงราชประสงค์ 19 พ.ค.2553)

5. เราขอยืนยันคำพยากรณ์ที่ให้ไว้เดิมในข้อ 4.1 และข้อ 4.2 ที่ว่า

“…..และครั้นถึงเวลาระหว่าง พ.ค. -ก.ค. 2554 (ช่วงประมาณ 3 เดือนนี้) น่าจักได้เผชิญภาวะอันร้ายแรงอันเนื่องมาจากแนวต้านทานพังทลายลงไปทั้งหมด”

“…..และระยะอันตรายของพรรคประชาธิปัตย์มีอยู่ในขณะนี้แต่จะทวีอันตรายไปยิ่งขึ้นที่ เมษายน 2554 เป็นต้นไป เป็นระยะที่ตกต่ำและแตกแยกอย่างรุนแรง”

6. จากการตรวจสอบดวงชะตาเมืองและบุคคลสำคัญของประเทศปี 2554 เราได้พบปรากฎการณ์สำคัญที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนเป็นเวลา 88 ปีมาแล้วเป็นอย่างน้อย นั่นคือ
ดาวเสาร์(๗)อยู่ราศีกันย์ ดาวราหู(๘)จรมาเข้าราศีพิจิก ทำมุมแหลมแบบปลายหอกเข้าสู่ดวงเมือง ศึกษาย้อนไปในอดีตราว 88 ปี ยังไม่เคยพบ ว่ามีดาวเสาร์กับดาวราหูจรเข้าบีบ ทิ่มแทงลักคณาดวงเมืองเช่นนี้ และส่อความหมายในทางร้ายเพราะดาวร้าย 2 ดวงนี้เดินสวนกันเข้าบีบทิ่มแทงดวงเมือง โดยเสาร์(๗)กัมมะเดิมจรมาสถิตย์ภพอริของเมืองณราศีกันย์ แล้ว มีราหู(๘) จรมาเข้าภพมรณะของดวงเมืองณราศีพิจิก ปรากฎการณ์นี้บอกถึงความร่วมมือของมหามิตรดาวร้ายในวงการโหราศาสตร์ เพื่อกระทำการร้าย กำลังจะเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกภายหลัง88 ปีผ่านมา ในระหว่างวันที่ 24 พ.ค.2554 – 7 ก.ย.2555

แต่อย่างไรก็ตาม เราขอยืนยันสถานะทางเศรษฐกิจที่ได้พยากรณ์เอาไว้ว่า เศรษฐกิจภาครัฐจะดีแน่ในปี 2554 นับจาก 4 พ.ค. 2554 เป็นต้นไป ประมาณ 1 ปี เพราะดาวพฤหัสบดีจรสู่ราศีเมษ นั่นหมายถึง การเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจ จะดี แต่อำนาจการจรของดาวเสาร์(๗)กับดาวราหู(๘)ที่ทำมุมปลายหอกทิ่มดวงเมืองนั้น จะบ่งบอกถึงการรั่วไหลขนาดใหญ่ อุปมาเหมือนแผลใหญ่ จากการทิ่มแทงด้วยอาวุธหอกปลายแหลม เข้าเส้นเลือดใหญ่ ……….. ฉะนั้นปี 2554นี้ จะเป็นปีที่ราษฎรเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า หากินไม่พอปากพอท้อง ……………เข้าของราคาแพง ค่าเงินตกต่ำ ราคาน้ำมันขึ้นสูงลิ่ว หาได้ไม่พอจ่าย จริงอยู่หามาได้ แต่รายจ่ายดูดเอาไปหมด อย่างนิ่ม ๆ ไม่รู้ตัว จะหมายถึงระดับราคาและค่าครองชีพจะสูงลิ่ว และหมายถึงอุบัติเหตุสำคัญ ๆ รวมทั้งเรื่องร้ายแรงต่าง ๆ ตลอดถึงภัยธรรมชาติ ฯลฯ………………………..

และเราได้วิเคราะห์ชั้นต้นไว้แล้วว่าจะเกิดเหตุร้ายต่าง ๆ ขึ้นถึง 7 ประการ คือ

1. การรั่วไหลทางเศรษฐกิจการเงินของประเทศ หนี้สินและการสูญเปล่า
2. มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น เป็นเรื่องที่สำคัญ และแปลกประหลาด (เช่นการลอบฆ่าบุคคลสำคัญ ฯลฯ)
3. สถานะการณ์ประชาชนยากลำบาก หากินไม่พอปากพอท้อง
4. การพังของรัฐบาลขณะนั้น
5. ข้าวของราคาแพง ค่าครองชีพสูงขึ้น ราคาน้ำมันสูงลิ่ว
6. เกี่ยวกับต่างประเทศ หรือคนต่างประเทศ คดีความสำคัญ ๆ
7. เรื่องวิปริตทางธาตุ มีดิน น้ำ และลม ไฟ

ห้วงเวลาสำคัญ
– ก.ย.- ต.ค.- พ.ย.2554
– พ.ค. – มิ.ย.- ก.ค. – ส.ค.-ก.ย.2555

7. ในระหว่างประเด็นเรื่องราวที่ร้ายแรงทั้ง 7 ข้อ เมื่อมองรายละเอียดอย่างเพ่งเพ่งเล็งพินิจแล้วก็พบเหตุร้ายอยู่ 2 ประการที่ดูจะเห็นชัดกว่าประการอื่น ๆ คือ

7.1. เรื่องธาตุแปรปรวน ภัยทางธรรมชาติ และน่าเป็นภัยทางน้ำ สึนามิ…..เพราะสึนามิคราวที่แล้วมีราหู(๘)ธาตุลมเป็นตัวการร่วมอย่างสำคัญตัวหนึ่ง
คราวนี้ก็มีราหู(๘)จรเข้าสู่พิจิกธาตุน้ำ ลมแรง+น้ำ และคราวนี้มิใช่เพียงราศีพิจิก แต่ราศีธาตุน้ำทั้งสามราศีคือ กรกฎ, พิจิก และมีน ถูกกระแสดาวเคราะห์ป่วนอย่างหนัก เริ่มแต่ ราหู(๘)ธาตุลมจรเข้าสู่ราศีพิจิกเป็นมหาอุจ พิจิกเป็นราศีธาตุน้ำ กระแสราหู(๘)แผ่ไปถึงราศีธาตุน้ำด้วยกันทุกราศี คือราศีกรกฎที่มีจันทร์(๒)เดิมเป็นเกษตรประจำอยู่ และราศีมีนที่มีศุกร์(๖)เดิมเป็นกาลกิณีมหาอุจประจำอยู่
ด้วยเหตุที่ดาวที่จรเข้ามาและดาวประจำเดิมในราศีธาตุน้ำทั้ง 3 ราศี ล้วนแต่ดาวเข้มแข็ง ทั้งสิ้น นั่นคือ จันทร์(๒)ธาตุดินเดิมในราศีกรกฎเป็นเกษตร ศุกร์(๖)ธาตุน้ำเดิมเป็นกาลกิณีมหาอุจ และราหู(๘)จรแรงเป็นศรีจรมหาอุจ (ศรีกับกาลกิณีปะทะกันด้วยพลังมหาอุจทั้งคู่ สะท้อนถึงจันทร์เกษตรในภพที่4ของดวงเมือง อันหมายถึงแผ่นดินของเผ่าพันธ์ไทย
อ่านความหมายได้

ประการที่ 1 ว่า สึนามิท่วมแผ่นดินสำคัญของไทย(น่าเป็นเมืองสำคัญ อาจจะเป็นกรุงเทพเองได้หรือไม่…หากมิเช่นนั้นก็ต้องเมืองสำคัญ) หรือมิฉะนั้นก็เกิดอุทกภัย น้ำท่วมทั่วประเทศ…..
ประการที่ 2 อ่านว่า สตรีคนสำคัญของแผ่นดินจะสิ้นอายุ (ด้วยเหตุมาจากอุทกภัย)…..หรือมิฉะนั้นก็มีเหตุสตรีตายหมู่ขนาดใหญ่อันเนื่องจากอุทกภัย..และในหมู่นั้นล้วนสตรีคนสำคัญ ๆ ของประเทศ
เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 9 กันยายน – 31 ตุลาคม 2554

7.2 มีการปฏิวัติหรือรัฐประหาร ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น หรือ มีการใช้บทบาทของทหารในทางที่เข้มและเคร่งครัดเกิดขึ้น ในช่วงเวลาระหว่างเดือน ก.ย.-ต.ค.-พ.ย.2554

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ร้ายแรงนี้ ยังมีเวลาที่ดีแก่ประเทศไทยอยู่ระหว่างวันที่ 7 ธ.ค.2554 – 5 เม.ย.2555

7.3 และครั้นถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2555 เป็นต้นไปอีก 2 ปีครึ่ง ก็จะถึงวาระที่ประเทศไทยเข้าสู่ทางบวกขนาดใหญ่ จะบ่งบอกถึงพลังขับเคลื่อนขนาดใหญ่และรุนแรง มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างพลิกโฉม ประชาธิปไตยเจริญ…….

8. ครั้นได้ทำการตรวจสอบทบทวนในรายละเอียดต่อไป เราได้พบเรื่องราวที่ยืนยัน เน้นย้ำสิ่งที่ได้พยากรณ์เอาไว้เชิงสมมติฐาน อันจะเป็นคำพยากรณ์ ดังต่อไปนี้

9. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จะพ้นจากตำแหน่ง และเผชิญชะตากรรมอันร้ายแรง หมายความว่า ตกจากตำแหน่ง(ตำแหน่งใดใดในขณะนั้น) แล้วจักเผชิญชะตากรรมของชีวิตที่ระหกระเหินยากลำบาก รวมทั้งมีนัยยะของอุบัติเหตุที่ร้ายแรงมาก รวมทั้งเผชิญคดีความที่ร้ายแรง……..เหตุการณ์นี้ปรากฏจากการจรของระบบดาวร้ายในชะตานี้ ที่จรมาทับและถึงดวงชะตา ระหว่างวันที่ 22 มิถุนายน 2555 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 24 ธันวาคม 2555 รวมเป็นเวลาประมาณ 6 เดือนสำหรับช่วงเวลาที่เลวร้ายและแรงของเจ้าชะตานี้
(เหตุผลทางโหราศาสตร์ ตามบันทึกต่อไปนี้ : 22 มิ.ย.2555 นรม.นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ พ้นตำแหน่ง ๓ จรเป็นกาลกิณีร่วม ๗ จรเป็นอายุจร เข้าทับลักคณา ระหว่างนี้พ้นตำแหน่ง เผชิญชะตากรรมร้ายแรง เพราะว่า ๓ เป็นมรณะเดิม(ดาวฆาต) เดิมสถิตเป็นกัมมะ จรถึง ๗เดิม(เจ้าเรือนปุตตะ)ในภพอริ เมื่อ ๓ เป็นมรณะจรเป็นกาลกิณีมาร่วมกับ๗ จรมาทับลักคณา แล้วมีมฤตยู๐ เล็งตรงมายัง ๓๗ลั. ๔ ตนุลั. จรเข้าราศีกรกฎ ระหว่าง 22 มิ.ย. – 12 ก.ค.2555 พักรสู่มิถุน อยู่ในมิถุนถึง 3 ส.ค.2555 เป็น๔กาลกิณีจรถึง 24 ส.ค.2555 แล้วเสิรดสู่ราศีสิงห์-ตุล- และเมื่อจรสู่ราศีพิจิกก็ทับราหู(๘)มหาอุจ…….นี่คือนัยยะทางคดีความที่ร้ายแรง รวมทั้งการถูกลอบทำร้าย…….ช. โหรชนบท; บันทึกดวงชะตา, พ.ศ.2554 เล่มที่ 31 หน้า162)

10. ในช่วงเดือนตุลาคม ต่อเดือนพฤศจิกายน 2554 ประเทศไทยจะมีเหตุบอกถึงภัยธรรมชาติที่รุนแรงมิต่างจากภัยพิบัติของคาบสมุทรอันดามันวันที่ 26 ธันวาคม 2547 โดยฝนจะเริ่มตกชุก น้ำท่วมก่อนทั่วประเทศ อาจจะมีบางพื้นที่ บางท้องที่มีดินโคลนหรือภูเขาถล่ม ซึ่งจะเกิดกรณีนี้ขึ้นตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม ประมาณวันที่ 18 ตุลาคม 2554 แล้วจะเกิดสินามิขึ้นในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 เวลา 21.04 น. สินามิครั้งนี้น่าจะก่อความเสียหายต่อเมืองสำคัญ ๆ รวมทั้งกรุงเทพมหานครด้วย ส่วนจะเป็นผลให้ประชาชนล้มตายสูญหายไปเป็นจำนวนมากเท่าไร อย่างไร ไม่อาจจะพยากรณ์ได้ ในช่วงเกิดน้ำท่วมนี้จะมีเรื่องของสตรีผู้สูงศักดิ์ได้รับเคราะห์กรรมไปพร้อม ๆ กับประชาชนเพราะเหตุน้ำท่วมครั้งนี้ด้วย

11. เรายืนยันคำพยากรณ์เดิมที่ว่า และครั้นถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2555 เป็นต้นไปอีก 2 ปีครึ่ง ก็จะถึงวาระที่ประเทศไทยเข้าสู่ทางบวกขนาดใหญ่ จะบ่งบอกถึงพลังขับเคลื่อนขนาดใหญ่และรุนแรง มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างพลิกโฉม ประชาธิปไตยเจริญ…….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น