มาอีกแล้วกับพี่ดวงเฮงพาเที่ยว วันนี้เราไปเที่ยววัดสุทัศน์กัน พี่ดวงเฮงมีความผูกพันกับวัดนี้มาก เนื่องจากว่าเป็นวัดแรกที่พี่ดวงเฮงได้ไปปฏิบัติธรรมและรู้สึกติดใจ จนต้องไปอีกหลายๆ ครั้ง ติดใจในบรรยากาศของวัด ซึ่งอยู่กลางเมือง กทม. (เสาชิงช้า) เป็นที่ที่รถติด วุ่นวายไปหมด แต่พอเราได้เดินก้าวเข้าวัด รู้สึกเหมือนก้าวไปสู่อีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว สวยงาม สงบ ร่มเย็น จะเปรียบเหมือนสวรรค์บนดินเลยก็ว่าได้
เท่านั้นยังไม่พอ พระอาจารย์ทุกๆ รูปเป็นกันเอง และตั้งใจอยากให้เราได้สิ่งดีดีกลับไปให้ได้มากที่สุด การปฏิบัติธรรมสำหรับคนรุ่นใหม่อย่างเราจึงไม่ใช่เรื่องที่น่าเบื่อ หรือยาก ลำบากแต่อย่างใด กลับรู้สึกสบายมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ
ที่วัดสุทัศน์จะจัดบวชพราหม์ ปีละ 2 ครั้ง คือวันพ่อ กับวันแม่ เพื่อระลึกถึงพระคุณของพ่อหลวง และพระราชินีของเรา รวมถึงเป็นการทำความดีเพื่อพ่อแม่ของเราเองด้วย เป็น 2 ครั้งที่ได้ประโยชน์สูงสุดที่ทุกคนไม่ควรพลาดเลยจริงๆ
หรือสำหรับคนที่ยังไม่พร้อมจะต้องไปค้างคืน ก็ไม่เป็นไร เพราะว่าพี่ดวงเฮงเห็นคนที่ทำงานอยู่แถวนั้น หรือแม้กระทั่งนั่งท่องเที่ยว เข้ามาร่วมสวดมนต์ประจำวัน ซึ่งจะมีตอนเที่ยง และตอนค่ำ ทุกวัน ไปเมื่อไหร่ก็ได้เลยที่เราต้องการนะจ๊ะ การทำบุญเราไม่ต้องรอโอกาสสำคัญ ทำเมื่อไหร่ก็ได้ ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจอันบริสุทธิ์ของเราเท่านั้น ใครไปเที่ยวมาแล้วจะมาแชร์ให้พี่ดวงเฮงฟังก็ได้นะจ๊ะ ^ ^
ประวัติ วัดสุทัศนเทพวราราม
เนื่องจากเป็นวัดเก่าแก่ของกรุงเทพฯ จึงมีประวัติอันยาวนาน รวมถึงชื่อหลายชื่อที่คนนิยมเรียกกัน ดังนี้
๑ . วัดพระใหญ่
๒. วัดพระโต
๓. วัดเสาชิงช้า
๔. วัดมหาสุทธาวาส
๕. วัดสุทัศนเทพวราราม
ผู้สร้างและมูลเหตุที่สร้าง
วัดนี้ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ ๑ แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี โปรดเกล้าให้สถาปนาขึ้น แต่ทรงสร้างค้างไว้แต่เพียงรากพระวิหาร ถึงรัชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสร้างใหม่ทั้งอาราม ในรัชกาลที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงปฎิสังขรณ์เพิ่มเติมอีก
ส่วนมูลเหตุที่จะทรงสร้างวัดนี้ มีเรื่องราวปรากฏมาว่า “ เมื่อสร้างกรุงรัตนโกสินทร์ขึ้นมาเป็นราชธานีแล้ว ความมุ่งหมายที่จะทำนุบำรุงให้เหมือนกรุงศรีอยุธยาเดิม ด้วยนับถือกันว่า ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีเป็นสมัยที่บ้านเมืองรุ่งเรือง เรียกกันว่า “ ครั้งบ้านเมืองดี ” รั้ววังวัดวาที่สร้างขึ้นสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ก็มักถ่ายแบบมาจากกรุงศรีอยุธยา ยกตัวอย่างเช่นที่สร้างวัดสุทัศน์ฯ เป็นที่ประดิษฐานพระโตซึ่งเชิญมาแต่กรุงสุโขทัยในสมัยรัชกาลที่ ๑ ก็มีพระราชประสงค์จะสร้างแทนวัดพระเจ้าพนัญเชิงที่กรุงเก่าดังนี้เป็นต้น ” ๒
กิจกรรมปฎิบัติธรรม
วันธรรมดา
ภาคกลางวัน เวลา 12.00 – 13.00 น.
ทำวัตรพระสวดมนต์ บำเพ็ญสมาธิแผ่เมตตา เป็นเสร็จพิธี
ภาคกลางคืน เวลา 19.00 – 21.00 น.
ทำวัตรสวดมนต์เย็น ฟังธพระธรรมเทศนา บำเพ็ญสมาธิ รับพร เป็นเสร็จพิธี
วันหยุด (เสาร์ – อาทิตย์)
ภาคกลางวัน เวลา 13.00 – 15.00 น.
ทำวัตรพระสวดมนต์ บำเพ็ญสมาธิแผ่เมตตา ฟังพระธรรมเทศนา 2 ธรรมาสน์รับพร เป็นเสร็จพิธี
ภาคกลางคืน เวลา 19.00 – 21.00 น.
ทำวัตรสวดมนต์เย็น ฟังพระธรรมเทศนา 2 ธรรมาสน์ บำเพ็ญสมาธิ แผ่เมตตา รับพร เป็นเสร็จพิธี
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
ขอเชิญพุทธศาสนิกชน ร่วมปฏิบัติธรรมและเวียนเทียน ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา (วิสาขบูชาม, อัฎฐมีบูชา, อาสาฬบูชา, มาฆบูชา)
งานประจำปี
-งานส่งท้ายปีเก่า – ต้อนรับปีใหม่
– สวดมนต์ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน
-วันมาฆบูชา
-งานประเพณีสงกรานต์
-งานบวชชีพราหมณ์ 11-12 ส.ค.  และ 3-5 ธ.ค.
-งานอุปสมบทสามเณรเปรียญ
-งานเทศน์มหาชาติประจำปี  วันแรม 11-15 ค่ำ เดือน 10
สอบถามรายละเอียดและจองเป็นเจ้าภาพกัณฑ์เทศน์
ได้ที่คณะกรรมการบริหารโครงการเปิดพระอาราม
ภาคกลางคืน หรือ ที่ศาลาโพธิ์

โทร. 0-2222-6935, 0-2222-9632

E-mail : katitham@ksc.th.com
การเดินทางรถเมล์ ป.อ.8 , 12 และ สาย 10,12,19,35,42
แผนที่

1 comment

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น